แมวล้านตัว (ตอนที่ ๒)
แม้จะได้กล่าวถึงหนังสือ “แมวล้านตัว” ไปบ้างแล้วในคราวก่อน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะย้อนกลับมาพูดถึงอีกครั้ง ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษเมื่อได้เห็นหนังสือภาพคลาสสิกเล่มนี้กลับมาปรากฏตัวร่วมกับหนังสือดีอีก 4 เล่มในชุดเดียวกัน สำหรับผู้เขียนเอง “แมวล้านตัว” คือหนังสือที่ผูกพันในระดับลึก ตั้งแต่แรกเห็นฉบับภาษาอังกฤษดั้งเดิมที่สะดุดตาด้วยปกสีเหลือง แดง และดำ ลายเส้นที่หนักแน่น จริงจัง แต่กลับกลายเป็นเสน่ห์ที่หายากในโลกของหนังสือภาพสำหรับเด็ก เสมือนเป็นเครื่องยืนยันอีกครั้งว่า หนังสือภาพที่ดีนั้นคือศิลปะอย่างแท้จริง—ศิลปะที่ได้รับการออกแบบด้วยความประณีตในทุกมิติ ตั้งแต่หน้าปกจนถึงหน้าสุดท้าย และที่ต้องให้ความเคารพเจ้าของงานที่โดยเราไม่อาจแตะต้องหรือดัดแปลงได้เลย
น่าเสียดายที่เราได้เห็นหนังสือดี ๆ หลายเล่มสูญเสียพลังดั้งเดิมไป เมื่อถูกแปลและปรับเปลี่ยนในกระบวนการตีพิมพ์ ทั้งการเพิ่มสีสัน เปลี่ยนรูปแบบการจัดวาง หรือแม้กระทั่งกลายเป็นหนังสือสองภาษา ซึ่งอาจทำให้จังหวะทางภาษา ความงามของภาพ และอารมณ์ร่วมลดทอนลงอย่างไม่รู้ตัว
ข้อมูลด้านหนึ่งระบุว่า “แมวล้านตัว” ใช้หมึกสีดำล้วนในการวาดภาพ อีกข้อมูลบอกว่าเป็นงานภาพพิมพ์ (printmaking) ส่วนลายมือที่ปรากฏในฉบับภาษาอังกฤษนั้น เป็นของน้องชายของ Wanda Gág ซึ่งก็เป็นศิลปินเช่นกัน (ฉบับภาษาไทยเป็นลายมือของ อ. ชีวัน วิสาสะ) เราไม่อาจรู้แน่ชัดว่าผู้เขียนคิดอะไรในเวลานั้น แต่หนังสือเล่มนี้ได้รับการตีความอย่างหลากหลายในหลายมิติ ทั้งภาพ เนื้อหา ภาษา และรูปแบบการนำเสนอ และทั้งหมดนี้ก็ยังคงถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องมากว่า 90 ปี นับตั้งแต่พิมพ์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2471
“แมวล้านตัว” ถือเป็นหนังสือภาพสำหรับเด็กที่มีชีวิตยืนยาวที่สุดเล่มหนึ่งในสหรัฐอเมริกา และยังเป็นเหตุผลที่ทำให้ Wanda Gág ได้รับการยกย่องว่าเป็น “นักเขียนหนังสือภาพสำหรับเด็กที่แท้จริงคนแรก” ของประเทศ
แม้จะเป็นหนังสือเล่มเล็ก แต่กลับสามารถเล่าเรื่องราวมากมายไปพร้อมกันได้อย่างน่าอัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกที่ต่างกันของเพศชายและหญิง ความลังเลของชายชรา ความแข็งแกร่งของหญิงชรา หรือแม้แต่แง่มุมเชิงจิตวิทยาที่ซ่อนอยู่ภายใต้ภาพวาดเรียบง่าย เช่น ภาพชายแก่หอบแมวเต็มอ้อมแขน มีแมวเดินตามหลังเป็นขบวน สื่อถึงความลังเล โลภเกินพอดี ขาดการตัดสินใจ หรือแม้กระทั่งความเห็นแก่ตัวโดยไม่รู้ตัว
เรื่องราวดำเนินมาถึงจุดที่แมวนับล้านตัว—เต็มไปด้วยความหลงตัวเองและอยากเป็นหนึ่งเดียว—หันมาทำลายกันเอง จนไม่มีใครเหลือรอด ส่วนมนุษย์ผู้เป็นต้นเหตุกลับหลบปัญหาอยู่ในบ้านอย่างเงียบ ๆ กระทั่งออกมาเจอแมวน้อยขี้เหร่เพียงตัวเดียว ที่รอดชีวิตมาได้ด้วยความอ่อนน้อม และท้ายที่สุดก็ได้กลายเป็นแมวน่ารักในบ้านอันอบอุ่นของสองตายาย
“แมวล้านตัว” พิสูจน์ให้เห็นว่า หนังสือสำหรับเด็กสามารถพูดถึงประเด็นลึกซึ้งได้ โดยไม่จำเป็นต้องลดทอนความซับซ้อนของโลก เด็กสามารถเข้าใจเรื่องยาก ๆ ได้ หากเรื่องนั้นถูกเล่าด้วยหัวใจ ด้วยจังหวะ และด้วยภาพที่เปิดพื้นที่ให้จินตนาการของพวกเขาเติบโต
Wanda Gág อาจไม่ได้บอกเด็ก ๆ ว่าอะไรผิดหรือถูก แต่เธอพาเด็ก ๆ ไปเห็นผลของการกระทำ—ว่าความมากเกินไปย่อมไม่เป็นผลดีเสมอไป และความอ่อนโยน ความถ่อมตน ความเรียบง่าย คือสิ่งที่พาเราไปสู่ความงดงามที่แท้จริง